หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
คณะ/ภาควิชา : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / ภาควิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
สาขาวิชา : วิทยาศาสตร์การแพทย์
หมวดที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
1. รหัสและชื่อหลักสูตร
รหัสหลักสูตร : 25511741102878
ชื่อหลักสูตรภาษาไทย : หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์
ชื่อหลักสูตรภาษาอังกฤษ : Bachelor of Science, Program in Medical Science
2. ชื่อปริญญาและสาขาวิชา
ชื่อเต็ม (ภาษาไทย) : วิทยาศาสตรบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การแพทย์)
ชื่อย่อ (ภาษาไทย) : วท.บ. (วิทยาศาสตร์การแพทย์)
ชื่อเต็ม (ภาษาอังกฤษ) : Bachelor of Science (Medical Science)
ชื่อย่อ (ภาษาอังกฤษ) : B.Sc. (Medical Science)
3. วิชาเอก : ไม่มี
4. จำนวนหน่วยกิต : ไม่น้อยกว่า 128 หน่วยกิต
5. รูปแบบของหลักสูตร
5.1 รูปแบบ
🗹 หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ
🗹 หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ
□ หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาการ
□ หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพ
□ หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพ
□ หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาชีพ
□ หลักสูตรปริญญาตรีปฏิบัติการ
□ หลักสูตรปริญญาตรีปฏิบัติการ
□ หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าปฏิบัติการ
5.2 ภาษาที่ใช้
🗹 ภาษาไทย
□ ภาษาต่างประเทศ
□ ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ
5.3 การรับเข้าศึกษา
🗹 รับเฉพาะนักศึกษาไทย
□ รับเฉพาะนักศึกษาต่างชาติ
□ รับทั้งนักศึกษาไทยและนักศึกษาต่างชาติ
5.4 ความร่วมมือกับสถาบันอื่น
เป็นหลักสูตรเฉพาะของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
5.5 การให้ปริญญาแก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ให้ปริญญาเพียงสาขาวิชาเดียว
6. สถานภาพของหลักสูตรและการพิจารณาอนุมัติ/เห็นชอบหลักสูตร
6.1 สถานภาพของหลักสูตร
□ หลักสูตรใหม่
🗹 หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565 ปรับปรุงจากหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจุลชีววิทยา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560
6.2 เริ่มใช้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป
6.3 สภาวิชาการพิจารณาและเห็นชอบให้นำเสนอหลักสูตรต่อสภามหาวิทยาลัย ในการประชุมคณะกรรมการวิสามัญสภาวิชาการ ครั้งที่ 2 / 2564 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2564
6.4 สภามหาวิทยาลัยอนุมัติหลักสูตรในการประชุมครั้งที่ ….. / ….. เมื่อวันที่ ….. สิงหาคม พ.ศ. 2564
7. ความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
🗹 หลักสูตรจะมีความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ในปีการศึกษา 2567
□ หลักสูตรจะมีความพร้อมในการเผยแพร่หลักสูตรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับ………….. ในปีการศึกษา …………..
8. อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา
1) นักวิทยาศาสตร์การแพทย์
2) ผู้ช่วยวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์
3) นักพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและการแพทย์
4) ผู้ประกอบการเครื่องมือทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์สุขภาพ
5) พนักงานขายผลิตภัณฑ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์
9. ชื่อ สกุล ตำแหน่งทางวิชาการ และคุณวุฒิการศึกษาของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ลำดับที่ | ชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน | ตำแหน่งทางวิชาการ | คุณวุฒิ(สาขาวิชา) | สถานศึกษาและปีพ.ศ.ที่สำเร็จการศึกษา |
---|---|---|---|---|
1 | นางสาวรัชนู เมยดง3-4710-XXXXX-XX-X | อาจารย์ | ปร.ด. (จุลชีววิทยา)วท.ม. (จุลชีววิทยา)วท.บ. (จุลชีววิทยา) | มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2560มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2553มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2549 |
2 | นางสาวรัตน์สุภา ธรรมาภรณ์1-1020-XXXXX-XX-X | อาจารย์ | ปร.ด. (เคมี) วท.ม. (เคมี) วท.บ. (เคมี) | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2559มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2552มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2549 |
3 | นางสาวศิริพร ทิพย์สิงห์3-6205-XXXXX-XX-X | ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุลชีววิทยา (2102) | กศ.ม. (วิทยาศาสตร์ศึกษา-ชีววิทยา)ค.บ. (ชีววิทยา) | มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2545สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 2539 |
4 | นายจรัญ ประจันบาล3-2504-XXXXX-XX-X | ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุลชีววิทยา (2102) | วท.ม. (จุลชีววิทยา) วท.บ. (ชีววิทยาประยุกต์) | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2551สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 2546 |
5 | นายสถิตย์ พันวิไล3-3302-XXXXX-XX-X | อาจารย์ | วท.ม. (จุลชีววิทยา)วท.บ. (ชีววิทยาประยุกต์) | มหาวิทยาลัยมหิดล, 2557มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, 2547 |
หมายเหตุ ประวัติ ผลงานทางวิชาการ และภาระงานสอนของอาจารย์ ดูที่ภาคผนวก ค
10. สถานที่จัดการเรียนการสอน
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร
11. สถานการณ์ภายนอกหรือการพัฒนาที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาในการวางแผนหลักสูตร
11.1 สถานการณ์หรือการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560-2580 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ โดยมุ่งเน้นพัฒนาจากรากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะประเด็นด้านอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่จะเพิ่มมากขึ้นทั้งจากสังคมผู้สูงอายุ การระบาดของเชื้อก่อโรค มลพิษสิ่งแวดล้อม การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมีและจุลินทรีย์ก่อโรคล้วนมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในทุกพื้นที่ รวมถึงต่างประเทศมีความความต้องการทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและบริการการแพทย์ ครอบคลุมการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ การผลิตอวัยวะเทียม การผลิตเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์ การผลิตเภสัชภัณฑ์ซึ่งรวมถึงชีวเภสัชภัณฑ์ และการให้บริการการแพทย์ที่เกี่ยวข้องและต่อเนื่อง พร้อมทั้งการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมทางการแพทย์และบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลางการส่งเสริมและดูแลสุขภาพและรักษาผู้ป่วยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ที่มีเป้าหมายในการเร่งส่งเสริมการลงทุนด้านวิจัยพัฒนาและผลักดันสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม พัฒนาผู้ประกอบการให้เป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งเร่งผลิตบุคลากรสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรง ทำให้เกิดความตื่นตัวและตระหนักกับการดูแลและรักษาสุขภาพ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการจัดทำหลักสูตรซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์และการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของประเทศ นั่นคือหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อผลิตบัณฑิตที่เป็นผู้สนับสนุนงานด้านการแพทย์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ เพื่อออกไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
11.2 สถานการณ์หรือการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรม
ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ จึงมีนโยบายมากมายจากภาครัฐเพื่อส่งเสริมให้ประชากรมีสุขภาพที่ดี แต่เนื่องจากสภาวะของโลกในปัจจุบันที่เผชิญกับการระบาดของเชื้อก่อโรค มลพิษอากาศ รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนของสารเคมีและจุลินทรีย์ก่อโรค ล้วนมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีแนวทางในการป้องกันและรักษาโรคอย่างความถูกต้องและเหมาะสม โดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การแพทย์ และแขนงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเข้ามาประกอบ ดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมาจึงมีนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของมนุษย์ ทั้งอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ดี และง่ายใกล้เคียงคนปกติ รวมถึงเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้การรักษาโรคมีประสิทธิภาพสูง นอกจากเทคโนโลยีจะมีการพัฒนาตลอดเวลาแล้ว ปัจจัยที่สำคัญอย่างมากคือบุคลากรที่มีความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่จะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาทางด้านการแพทย์ จากส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติ พ.ศ. 2561-2580 ได้ให้ความสำคัญกับแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความท้าทายต่อการพัฒนาประเทศ ตัวอย่างเช่น การจ้างงานและอาชีพ ความมั่นคงของประเทศอันเกิดจากภัยคุกคามและความเสี่ยง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและคาดการณ์ได้ยาก โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของโรคระบาดและโรคอุบัติใหม่ที่ส่งผลให้การเฝ้าระวังด้านการสาธารณสุขในประเทศมีความสำคัญมากขึ้น ทำให้บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์มีบทบาทสำคัญและนับว่าเป็นบุคลากรที่ขาดแคลน เนื่องจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ล้วนมีความต้องการบุคลากรปฏิบัติหน้าที่ในห้องปฏิบัติการที่มีความรู้ด้านการเก็บรักษาตัวอย่าง การทดสอบ วิเคราะห์ วิจัยโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การให้บริการ ด้านคลินิก และด้านธุรกิจ เป็นต้น เนื่องจากศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ครอบคลุมเกือบทุกด้านของพื้นฐานวิชาทางการแพทย์ ได้แก่ เคมี ชีวเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา จุลชีววิทยา กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา อณูชีววิทยา ปรสิตวิทยา วิทยาภูมิคุ้มกัน เภสัชวิทยา พิษวิทยา หรือแขนงอื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ ที่มีสอดคล้องตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์
โดยสำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องมีความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยบูรณาการศาสตร์ในเนื้อหาต่าง ๆ มาใช้ในการวินิจฉัย ค้นหาสาเหตุ ตรวจสอบชิ้นเนื้อ วิเคราะห์ความรุนแรง ติดตามผลการรักษา การป้องกันและเฝ้าระวังโรค การส่งเสริมสุขภาพ การพิสูจน์หลักฐาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนกำหนดคุณลักษณะและควบคุมมาตรฐานเครื่องมือและห้องปฏิบัติการ การผลิตน้ำยาและชีววัตถุ เป็นต้น
จากลักษณะงานดังกล่าวจะเห็นว่านักวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของทุกคน โดยเป็นการบูรณาการความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะกับหมอและพยาบาลที่ช่วยสนับสนุนการตรวจวินิจฉัยสำหรับให้การดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังสามารถศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพ ปรับปรุง และพัฒนาวิธีการทดสอบที่เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงาน เพื่อนำมาซึ่งการรักษาแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
12. ผลกระทบจาก ข้อ 11.1 และ 11.2 ต่อการพัฒนาหลักสูตรและความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
12.1 การพัฒนาหลักสูตร
ผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องพัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สามารถจัดระบบการศึกษาเพื่อการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ มีทักษะในการปฏิบัติงาน มีความคิดเชิงพัฒนา และมีความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่สนองนโยบายด้านสุขภาพประชากรของประเทศ รองรับการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าบนพื้นฐานของความพอเพียงยั่งยืน
12.2 ความเกี่ยวข้องกับพันธกิจของสถาบัน
จากแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2564-2568 ที่กำหนดวิสัยทัศน์หรือแนวทางพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่น เพื่อเป็นสถาบันชั้นนำแห่งการเรียนรู้ในการผลิตการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การดนตรี อุตสาหกรรมบริการ และวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล
สำหรับหลักสูตรวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหลักสูตรที่เกิดจากการรวมศาสตร์วิชาด้านเคมี ชีวเคมี เทคโนโลยีวัสดุ เทคโนโลยีดีเอ็นเอ พืชสมุนไพร ชีววิทยา จุลชีววิทยา วิจัยพัฒนา และเป็นหลักสูตรที่มีความจำเป็นต้องเร่งผลิตบุคลากรทางด้านนี้ออกมารับใช้ชุมชน สังคม และประเทศชาติ
13. ความสัมพันธ์กับหลักสูตรอื่นที่เปิดสอนในคณะ/ภาควิชาอื่นของสถาบัน (เช่น รายวิชาที่เปิดสอนเพื่อให้บริการคณะ/ภาควิชาอื่น หรือต้องเรียนจากคณะ/ภาควิชาอื่น)
13.1 รายวิชาในหลักสูตรที่เปิดสอนโดยคณะ/ภาควิชาอื่น
รายวิชาต่างๆ ในหมวดวิชาศึกษาทั่วไป หมวดวิชาเฉพาะ และหมวดวิชาเลือกเสรี ดังต่อไปนี้
1) หมวดวิชาศึกษาทั่วไป ทุกรายวิชาที่เปิดสอนโดยคณะหรือสาขาวิชาอื่น
2) หมวดวิชาเฉพาะ ได้แก่ กลุ่มวิชาแกนวิทยาศาสตร์ ได้แก่ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาเคมี กลุ่มวิชาชีววิทยา และกลุ่มวิชาฟิสิกส์
3) หมวดวิชาเลือกเสรี ทุกรายวิชาที่เปิดสอนโดยคณะหรือสาขาวิชาอื่น
13.2 รายวิชาในหลักสูตรที่เปิดสอนเพื่อให้บริการคณะ/ภาควิชาอื่น
รายวิชาในหลักสูตรเปิดโอกาสให้นักศึกษาสาขาอื่น สามารถเลือกเรียนเป็นวิชาบังคับ วิชาเลือก หรือวิชาเลือกเสรี และกลุ่มวิชาโทได้
13.3 การบริหารจัดการ
การบริหารจัดการการเรียนการสอนจะมีระบบประสานงานร่วมกันระหว่างหลักสูตรกับภาควิชาและคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนา/ปรับปรุงหลักสูตร โดยมีกรรมการผู้รับผิดชอบหลักสูตรประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้บริหาร และอาจารย์ผู้สอน ซึ่งอาจอยู่ต่างสาขาวิชาหรือต่างคณะ เพื่อกำหนดเนื้อหา และกลยุทธ์การสอนตลอดจนการวัดและประเมินผล ทั้งนี้เพื่อให้นักศึกษาได้บรรลุผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร