ก่อนที่เราจะรู้ถึงข้อดีของการวิวัฒนาการของเว็บไซต์ในแต่ละ Generation เราต้องรู้ก่อนว่าเว็บไซต์คืออะไร มีไว้ทำอะไรเราจะช่วยคุณไขข้อสงสัยนั้นเอง
เว็บไซต์ (Website) คืออะไร 🌐🌐
เว็บไซต์ หมายถึง เว็บเพจที่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆผ่านทางคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต โดยจะมีการเชื่อมโยงหลายมิติหรือเรียกว่า ไฮเปอร์ลิงก์ เมื่อเรารู้ว่าอะไรคือเว็บไซต์มาพอสมควรแล้วแล้วเราก็จะขอพูดถึงแต่ละ Generation ของเว็บไซต์เลยแล้วกัน
🔹 Web 1.0 คืออะไร
เว็บ 1.0 เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1989 ถึง 2005 ซึ่งเป็นยุคเริ่มแรกแต่ก็ยังคงมีให้เราเห็นในปัจจุบันเว็บ 1.0 ถือว่าเป็นเว็บที่ใช้ แสดงรูปภาพ ข้อความ เสียง ซึ่งไม่สามารถตอบโต้กับเว็บไซต์ได้หรือ One Way Communication จะแก้ไขข้อมูลได้ก็มีเพียงแต่เจ้าของเว็บไซต์เช่นเดียวกับสื่อกระแสหลักอื่นๆเช่น หนังสื่อพิมพ์หรือวิทยุ
🔹 Web 2.0 คืออะไร
เว็บ 2.0 เป็นการพัฒนาต่อจากเว็บ 1.0 เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2005 ถึง 2020 เป็นยุคที่นำเสนอบทความหรือความรู้ต่างๆแล้วผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ (ถาม-ตอบ) ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในเรื่องของความถูกต้องเพราะ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความถูกต้องของเนื้อหาอย่างกลั่นกรองให้ไปในทางเดียวกันหรือได้ถกเถียงกันเรื่องความถูกต้อง ซึ่งทำให้ข้อมูลในเว็บไซต์นั้นมีการ Update เป็นรูปแบบของการสื่อสารที่เป็นสองทางหรือเราเรียกว่า Two Way Communication และไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เราจึงขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมที่ท่านต้องเคยเห็นกันมาอย่างแน่นอนเช่น Youtube, Instagram, เว็บไซต์ต่างๆที่สารารถตอบโต้กับเจ้าของเว็บหรือ Content นั้นๆได้ เช่น เว็บ Pantip เป็นต้น หรือจะเรียกได้ว่า Social Media ที่พวกคุณได้ใช้ทำงานหรือเพื่อความบันเทิงทั้งหมดนั้นล้วนคือเว็บ 2.0
🔹 WEB 3.0 คืออะไร
เว็บ 3.0 นั้นเริ่มมีการพัฒนาขึ้นเมื่อปี 2021 ถึงปัจจุบันเป็นยุคที่พัฒนามาจากเว็บ 2.0 จึงทำให้สามารถอ่าน เขียนหรือตอบโต้กันได้ซึ่งการ อ่าน เขียน และตอบโต้กันของผู้สร้างและผู้ใช้จำนวนมากนั้นทำให้เกิดเป็นสังคมออนไลน์ขึ้นมาหรือที่เรียกว่า Social Media ซึ่งข้อมูลทั้งหมดต้องผ่านคนกลางหรือผู้สร้างเว็บไซต์ต่างๆหรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ ทำให้เห็นพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ที่ไม่ตรงต่อเป้าหมายหรือขัดต่อนโยบายจำนวนมากจึงเกิดการ ลบ หรือ แบนผู้ใช้เกิดขึ้นดังนั้นจึงเกิดแนวคิดที่ว่า “เว็บไซต์ที่อิสระอย่างแท้จริงนั้นจะต้องเชื่อมโยงกันโดยไร้ศูนย์กลาง”
เว็บ 3.0 จึงมีรูปแบบการทำงานแบบ Semantic Web คือ การจัดความสัมพันธ์ของชุดข้อมูลต่างๆให้เข้าใจกันมากขึ้นด้วย AI เพราะข้อมูลในระบบ Internet มีมากมายมหาศาล โดยมีระบบดังนี้
Decentralized หรือระบบไร้ตัวกลาง เป็นการกระจายอำนาจผู้ใช้งานโดยไม่ผ่านระบบ Server หรือ Platform ใดๆ
Bottom-Up Design หรือการออกแบบ Code ร่วมกัน ซึ่งผู้ใช้จะสามารถเข้าร่วมการออกแบบพัฒนาหรือแก้ไขบัคต่างๆ ร่วมกับผู้พัฒนาได้
Consensus หรือฉันทามติ คือการตรวจสอบความถูกต้องของกันและกันได้เพื่อความเห็นที่ตรงกัน