![](https://site.bsru.ac.th/ict/wp-content/uploads/2023/05/รู้หรือไม่-37-1024x1024.png)
รู้จัก 4E Marketing🛒
4E Marketing คือหลักการตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่ต่อยอดมาจาก 4P และ 4C เพื่อให้สอดรับกับโลกยุคนี้ที่เป็นยุคดิจิทัล โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ซึ่งการพัฒนาต่อยอดมาจาก 4P กับ 4C มาเป็น 4E Marketing เกิดจากการตลาดที่เปลี่ยนไปตามเวลา มีเทคโนโลยีล้ำสมัย การใช้โซเชียลมีเดีย หรือการทำธุรกรรมออนไลน์ที่หลากหลายขึ้น ซึ่งเปลี่ยนเส้นทางการจับจ่ายของผู้บริโภคไปพอสมควร หลักการตลาดยุคนี้อาจไม่ใช่ Mass Market แบบเดิมอีกต่อไป
การมีธุรกิจเป็นตัวกลางแบบหลักการตลาด 4P คงไม่เวิร์กและก็ยังไม่ใช่แบบ 4C ที่คิดแค่ในมุมมองของคนที่เป็นลูกค้า แต่ควรจะเป็น 4E ที่เน้นสร้างประสบการณ์ที่ดี หรือ Customer Experience มากกว่าส่วนอื่น ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกดีและประทับใจแบรนด์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลดีให้แบรนด์มากเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ในตัวสินค้าหรือบริการ แต่มันคือทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การสร้างจุดยืน การดีไซน์ ตัวสินค้าหรือบริการไปจนถึงหลังการขาย เพราะธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้คือธุรกิจที่สามารถเข้าไปนั่งในใจลูกค้าได้มากกว่าธุรกิจที่เน้นแค่การขาย เพราะเมื่อคุณสามารถเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้ก็สามารถอยู่ในตลาดในระยะยาวได้ โดย ทั้ง 4E Marketing หลักมีดังนี้
1. EXPERIENCE การสร้างประสบการณ์ที่ดี✨
ปัจจุบันแบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น อีกทั้งยังมีนวัตกรรม เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยด้วย ทำให้มีการแข่งขันในการแย่งชิงผู้บริโภคก็สูงขึ้นเช่นกัน บวกกับการใช้ชีวิตของคนเราก็เปลี่ยนไป 4E ในข้อแรกก็คือ Experience เน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แบรนด์ต้องทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากทุกองค์ประกอบที่ไม่ใช่แค่สินค้าหรือบริการดีเพียงอย่างเดียว ซึ่งทุกองค์ประกอบที่ว่านี้อาจมีทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์ วิธีการนำเสนอ การดูแลและการสร้างความรู้สึกเกี่ยวข้องกับแบรนด์ในเชิงบวก
ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ของคุณคือ สกินแคร์ คุณก็ต้องพยายามสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่สินค้าคุณภาพดี ส่วนประกอบพรีเกรดเมี่ยมเท่านั้น ดีไซน์โปรดักส์และแพ็กเกจต้องสวยน่าใช้ รวมถึงหน้าร้านหรือหน้าเว็บไซต์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม การบริการที่ยอดเยี่ยมของพนักงาน วิธีการจ่ายเงินที่ง่ายต่อการใช้และอื่น ๆ ที่จะสามารถทำให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า
2. EXCHANGE การสร้างความคุ้มค่าให้ลูกค้ายอมจ่าย💸
จากเดิมที่หลักการตลาดจะเน้นการตั้งราคา ต้นทุนของผู้บริโภคได้ถูกปรับมาเป็น 4E ยุคใหม่เลยกลายเป็น Exchange การสร้างความคุ้มค่าให้ผู้บริโภคนั้นยอมจ่าย เพราะผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาขนาดนั้น แต่พวกเขาต้องการสิ่งที่คุ้มค่าพอกับเงินที่พวกเขานั้นจ่ายไปมากกว่า เช่น ความคุ้มค่ากับความพิเศษของสินค้าหรือส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นเมื่อต้องจ่ายในราคาเท่านี้ มันคุ้มค่าขนาดไหน ดังนั้นแบรนด์จะต้องสร้างการรับรู้ในด้านคุณค่าหรือการเพิ่มมูลค่าของสินค้าหรือบริการแทน เพื่อแลกเปลี่ยนกับความพึงพอใจที่พวกเขายอมจ่ายเงิน หากสามารถตั้งราคาให้คุ้มค่าก็สามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นนั่นเอง
3. EVERYWHERE การเข้าถึงที่ง่ายบนออนไลน์🌐
พอพฤิตกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลักการตลาด 4E ที่สามก็คือ Everywhere การเข้าถึงที่ง่ายและสะดวก ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้หลายช่องทาง หรือก็คือเน้นความสบายของลูกค้าเป็นหลัก ยิ่งช่องทางเยอะก็ยิ่งทำให้ขายได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ช่วงโควิดที่ร้านอาหารหลายร้านเริ่มมีบริการเดลิเวอรี เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารทานที่บ้านและต่างสถานที่ได้ ไม่จำเป็นต้องมาซื้อที่ร้านเองเหมือนเมื่อก่อน ปัจจุบันก็ไม่ใช่แค่ธุรกิจสายอาหารเท่านั้น มีทั้งร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้าก็ยังมีบริการส่งเดลิเวอรี่ แม้กระทั่งสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ยังสามารถซื้อบนออนไลน์ได้ หรือธุรกิสายแฟชั่น เครื่องประดับที่หน้าร้านบนออนไลน์ครอบคลุมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะ Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok
4. EVANGELISM การสร้างความสัมพันธ์👫🏻
เปลี่ยนจากเน้น Promotion แบบเดิมมาเป็น 4E ที่สี่คือ Evangelism การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเพื่อให้พวกเขาเกิดความภักดีต่อแบรนด์ Brand Loyalty เพื่อเป็นลูกค้าประจำแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์คุณให้ได้ เพราะแบรนด์จะได้ประโยชน์จากลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย เมื่อพวกเขาภักดีต่อแบรนด์จะเกิดการบอกต่อและแนะนำสินค้าให้กับเพื่อนพี่น้องรอบข้าง
โดยแบรนด์สามารถใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อมามัดใจพวกเขาไว้ เช่น การเพิ่มคุณภาพสินค้า บริการหลังการขาย ร่วมกับกิจกรรมที่ส่งเสริมลูกค้าเก่าและลูกค้าปัจจุบัน โปรโมชันลดแลกแถมสำหรับลูกเก่าและอีกมากมาย ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกระบอกเสียงอันทรงพลังให้กับแบรนด์ต่อไปในอนาคตได้